15. ดาวเรือง Tagetes spp.
ดาวเรือง Tagetes spp.
ชื่อวงศ์ : COMPOSITAE
ชื่อสามัญ : Marigolds
ชื่ออื่นๆ : ดาวเรือง
ถิ่นกำเนิด : ประเทศเม็กซิโก, อเมริกาใต้
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด, ปักชำยอด
ชื่อสามัญ : Marigolds
ชื่ออื่นๆ : ดาวเรือง
ถิ่นกำเนิด : ประเทศเม็กซิโก, อเมริกาใต้
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด, ปักชำยอด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ดาวเรืองเป็นไม้ดอกต้นสูง 25-60 ซม. ใบเป็นรูปหอก ปลายแหลม ขอบหยัก ดอกเป็นช่อกระจุกเดี่ยวที่ปลายยอด ดอกวงนอกกลีบดอกเป็นรูปรางน้ำ โคนเป็นหลอดเล็ก ปลายแผ่ ดอกวงในกลีบดอกเป็นหลอดมีหลายสี เช่น สีส้ม เหลืองทอง ขาว และสองสีในดอกเดียวกัน และมีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน พันธุ์ที่ใช้ปลูก เช่น Panther , Red Brocade , Dusty Rust , Midas Touch , Matador , Petite Gold
ลำต้น ดาวเรืองเป็นไม้ล้มลุก อายุไม่ถึง 1 ปี ลำต้นเป็นไม้เนื้ออ่อน ตั้งตรง แตกกิ่งเป็นทรงพุ่มแน่น ลำต้นมีความสูงตั้งแต่ 30-100 ซม.
ใบ ใบมีลักษณะเป็นใบประกอบคล้ายขนนก ปลายคี่ (odd-pinnate) เรียงตัวตรงกันข้าม ใบยาว 4-11 ซม. ใบมีรอยเว้าลึกถึงก้านใบ ใบย่อยมีลักษณะเรียวยาวเป็นรูปหอก ปลายแหลม เป็นไม้เนื้ออ่อน
ดอก ออกดอกเป็นช่อ กระจุกแน่น เป็นกลุ่มเดียวที่ก้านดอก ก้านดอกแข็งแรง ก้านดอกที่ติดกับดอกมีขนาดใหญ่กว่าก้านดอกบริเวณโคนก้าน ดอกมีสีเหลืองหรือออกสีเหลืองส้ม ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-4 ซม. ยาว 2.5-3.5 ซม. ประกอบด้วยกลีบดอกชั้นนอกที่เป็นดอกเพศเมีย และกลีบดอกชั้นใน กลีบดอกชั้นในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ คล้ายกระดิ่งหรือท่อ การออกดอกมักออกดอกในฤดูหนาว
เมล็ด เมล็ดมีลักษณะเรียวยาว และมีหางเมล็ดมีขนาด เมล็ดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับเมล็ดไม้ดอกชนิดอื่น
ดาวเรืองเป็นไม้ดอกต้นสูง 25-60 ซม. ใบเป็นรูปหอก ปลายแหลม ขอบหยัก ดอกเป็นช่อกระจุกเดี่ยวที่ปลายยอด ดอกวงนอกกลีบดอกเป็นรูปรางน้ำ โคนเป็นหลอดเล็ก ปลายแผ่ ดอกวงในกลีบดอกเป็นหลอดมีหลายสี เช่น สีส้ม เหลืองทอง ขาว และสองสีในดอกเดียวกัน และมีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน พันธุ์ที่ใช้ปลูก เช่น Panther , Red Brocade , Dusty Rust , Midas Touch , Matador , Petite Gold
ลำต้น ดาวเรืองเป็นไม้ล้มลุก อายุไม่ถึง 1 ปี ลำต้นเป็นไม้เนื้ออ่อน ตั้งตรง แตกกิ่งเป็นทรงพุ่มแน่น ลำต้นมีความสูงตั้งแต่ 30-100 ซม.
ใบ ใบมีลักษณะเป็นใบประกอบคล้ายขนนก ปลายคี่ (odd-pinnate) เรียงตัวตรงกันข้าม ใบยาว 4-11 ซม. ใบมีรอยเว้าลึกถึงก้านใบ ใบย่อยมีลักษณะเรียวยาวเป็นรูปหอก ปลายแหลม เป็นไม้เนื้ออ่อน
ดอก ออกดอกเป็นช่อ กระจุกแน่น เป็นกลุ่มเดียวที่ก้านดอก ก้านดอกแข็งแรง ก้านดอกที่ติดกับดอกมีขนาดใหญ่กว่าก้านดอกบริเวณโคนก้าน ดอกมีสีเหลืองหรือออกสีเหลืองส้ม ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-4 ซม. ยาว 2.5-3.5 ซม. ประกอบด้วยกลีบดอกชั้นนอกที่เป็นดอกเพศเมีย และกลีบดอกชั้นใน กลีบดอกชั้นในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ คล้ายกระดิ่งหรือท่อ การออกดอกมักออกดอกในฤดูหนาว
เมล็ด เมล็ดมีลักษณะเรียวยาว และมีหางเมล็ดมีขนาด เมล็ดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับเมล็ดไม้ดอกชนิดอื่น
ประโยชน์ของดาวเรือง
1. เป็นไม้ดอกไม้ประดับด้วยการตัดดอก
หรือปลูกในแปลง ปลูกจัดสวน และปลูกเป็นไม้กระถางเพื่อความสวยงาม
2. กลิ่นของดอกสามารถป้องกันแมลงศัตรูพืชบางชนิดได้ จึงใช้ปลูกร่วมกับไม้ชนิดอื่น และการไล่แมลงศัตรูพืชด้วยวิธีอื่น
3. กลีบดอก และผงกลีบดอกใช้สำหรับผสมอาหารให้เกิดสีเหลือง
4. การปลูกเพื่อจำหน่ายดอก เป็นอาชีพหลัก ซึ่งจำหน่ายสำหรับ
– การทำพวงมาลัยไหว้พระ หรือพวงมาลัยคล้องคอในโอกาสต่างๆ
– ปลูกในกระถาง หรือ ถุงพลาสติกเพื่อจำหน่ายต้น
– จำหน่ายดอกให้แก่โรงงานอาหารสัตว์ เพื่อสกัดสารแซนโธฟิล (xanthophyll) เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์หรือบดผสมโดยตรง โดยเฉพาะ ไก่ไข่ที่ช่วยให้ไข่มีสีแดงน่ารับประทาน
– จำหน่ายให้แก่โรงงานสกัดสีดอกดาวเรือง เพื่อสกัดสีนำไปใช้ในเป็นส่วนผสมของสี
5. น้ำมันหอมระเหยของดาวเรือง นำมาใช้สำหรับความสวยความงาม เป็นส่วนผสมเครื่องสำอางหรือใช้ทาบำรุงผิว บำรุงผม รวมถึงใช้ในงานหล่อลื่น และการป้องกันสนิม
2. กลิ่นของดอกสามารถป้องกันแมลงศัตรูพืชบางชนิดได้ จึงใช้ปลูกร่วมกับไม้ชนิดอื่น และการไล่แมลงศัตรูพืชด้วยวิธีอื่น
3. กลีบดอก และผงกลีบดอกใช้สำหรับผสมอาหารให้เกิดสีเหลือง
4. การปลูกเพื่อจำหน่ายดอก เป็นอาชีพหลัก ซึ่งจำหน่ายสำหรับ
– การทำพวงมาลัยไหว้พระ หรือพวงมาลัยคล้องคอในโอกาสต่างๆ
– ปลูกในกระถาง หรือ ถุงพลาสติกเพื่อจำหน่ายต้น
– จำหน่ายดอกให้แก่โรงงานอาหารสัตว์ เพื่อสกัดสารแซนโธฟิล (xanthophyll) เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์หรือบดผสมโดยตรง โดยเฉพาะ ไก่ไข่ที่ช่วยให้ไข่มีสีแดงน่ารับประทาน
– จำหน่ายให้แก่โรงงานสกัดสีดอกดาวเรือง เพื่อสกัดสีนำไปใช้ในเป็นส่วนผสมของสี
5. น้ำมันหอมระเหยของดาวเรือง นำมาใช้สำหรับความสวยความงาม เป็นส่วนผสมเครื่องสำอางหรือใช้ทาบำรุงผิว บำรุงผม รวมถึงใช้ในงานหล่อลื่น และการป้องกันสนิม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น